APRESENTADO SLIDE 1 TÍTULO

VÁ PARA O BLOGGER EDITAR HTML E ENCONTRAR ESTE TEXTO E SUBSTITUIR PELA SUA DESCRIÇÃO DO POST EM DESTAQUE.....

APRESENTADO SLIDE 2 TÍTULO

VÁ PARA O BLOGGER EDITAR HTML E ENCONTRAR ESTE TEXTO E SUBSTITUIR PELA SUA DESCRIÇÃO DO POST EM DESTAQUE.....

APRESENTADO SLIDE 3 TÍTULO

VÁ PARA O BLOGGER EDITAR HTML E ENCONTRAR ESTE TEXTO E SUBSTITUIR PELA SUA DESCRIÇÃO DO POST EM DESTAQUE.....

APRESENTADO SLIDE 4 TÍTULO

VÁ PARA O BLOGGER EDITAR HTML E ENCONTRAR ESTE TEXTO E SUBSTITUIR PELA SUA DESCRIÇÃO DO POST EM DESTAQUE.....

APRESENTADO SLIDE 5 TÍTULO

VÁ PARA O BLOGGER EDITAR HTML E ENCONTRAR ESTE TEXTO E SUBSTITUIR PELA SUA DESCRIÇÃO DO POST EM DESTAQUE.....

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Education : university

        เนื้อหาเรื่องนี้เป็นเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยของประเทศอังกฤษ โดยมีหัวข้อหลักๆ คือ สาขาวิชา รวมถึงการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย
        1.สาขาวิชา
                โดยสาขาวิชาที่มีการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยมีดังนี้
          - แพทยศาสตร์                                       - จิตวิทยา
          - วิศวกรรม                                             - รัฐศาสตร์   
          - สถาปัตยกรรม                                      - ปรัชญา
          - เกษตรศาสตร์                                       - สังคมวิทยา
          - นิติศาสตร์                                            - เศรษศาสตร์
        2.การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย
                  ถ้าต้องการเรียนในมหาวิทยาลัย คุณต้องสอบผ่านในโรงเรียนเมื่อตอนอายุ 17 ซึ่งการเรียนในมหาวิทยาลัยต้องมีการจ่ายค่าเล่าเรียน โดยบางคนอาจจะมีการกู้จากธนาคาร หรือเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาล  มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีการจัดการเรียนการสอนสามปี บางสาขาวิชาก็สีปี่ และมีบางสาขา เช่นแพทยศาสตร์ มีการเรียนการสอนห้าปี

Education : school

        เนื้อหาเรื่องนี้เป็นเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนของประเทศอังกฤษ โดยมีหัวข้อหลักๆ คือ ระบบของโรงเรียน  ตารางเรียน และวิชาที่เรียนในโรงเรียน
       1.ระบบของโรงเรียน
          อายุ 3 ปี เข้าเรียนโรงเรียนอนุบาล
          อายุ 5 ปี เข้าเรียนโรงเรียนประถม
          อายุ 11 ปี เข้าเรียนโรงเรียนมัธยม โดยเรียกนักเรียนในช่วงอายุนี้ว่า Pupils
          อายุ 16 ปี เข้าเรียนโรงเรียนฝึกอาชีพ (อาชีวะ)
          อายุ 18 ปี ออกจากโรงเเรียน และเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนฝึกอาชีพชั้นสูง
      2.รายวิชาที่เรียน
                โดยรายวิชาจะแบ่งเป็นสายศิลป์ และสายวิทย์
                 สายศิลป์                                    สายศิลป์
          - อังกฤษ                                      - คณิตศาสตร์
          - ฝรั่งเศส                                      - ฟิสิกส์  
          - ประวัติศาสตร์                              - เคมี
          - ภูมิศาสตร์                                   - ชีววิทยา
          - ศิลปะ ดนตรี                                - เทคโนโลยีสารสนเทศ
     3.ตารางเรียน
                  โดยแต่ละวันจะเรียน 6-7 วิชา และมีช่วงเวลาในการพักเบรคระหว่างเรียน  และมีเวลาในการพักรับประทานอาหารเที่ยงเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โโยโรงเรียนจะแบ่งเป็นสามภาคเรียน ในแต่ละปี โดยแตละเทอมจะมีเวลาเรียน 13 อาทิตย์

Classroom Language : การเรียกชื่อ


ภาษาอังกฤษในชั้นเรียนที่ใช้เพื่อถามนักเรียนว่ามีใครขาดเรียนบ้างนั้น สามารถใช้สำนวนต่อไปนี้
  •   Who’s absent?
    ฮูส แซ๊บเซิืนท (ใครขาดเรียน)
  •  Anybody absent today?
    เอ็๊นนิบ๊อดิ แอบเซิ๊น ทุเด (วันนี้มีใครขาดเรียนไหม)
  •  Is Somchai here?
    อิส สมชาย เฮีย (สมชายอยู่นี่ไหม)
  • Where is Somchai?
    แว ริส สมชาย (สมชายอยู่ไหน)
  • Answer when I read your name?
    อ๊านเซอะ เว็น นาย รีด ยัว เนม (ให้ขานชื่อเมื่อฉันเรียกชื่อ)
ตัวอย่างบทสนทนา
Teacher:  Who’s absent?
ฮูส แซ๊บเซิืนท (ใครขาดเรียน)
Students: Sam, Jo and John.
แซม โจ แอน จอน (แซม โจ และ จอนครับ)
Teacher:  Anybody absent today?
เอ็๊นนิบ๊อดิ แอบเซิ๊น ทุเด (วันนี้มีใครขาดเรียนไหม)
Students: Yes. Sam is absent.
เย็ส แซม มิส แซ๊บเซินท (ครับ จอนขาดเรียน)

Classroom Language : การขัดจังหวะ


ประโยคต่อไปนี้ ไว้สำหรับพูดเพื่อการขัดจังหวะ หรือให้นักเรียนหันมาสนใจครู มาดูเลยครับว่ามีอะไรบ้าง
  • Excuse me. May I interrupt?
    เอ็กซกิวส มี เม ยาย ยินเทอรัพท  (ขอโทษครับ ขอขัดจังหวะหน่อย)
  • Hello, Jo. Why are you late?เฮ็ลโล โจ วาย ยา ยู เลท (หวัดดี จอน ทำไมเธอมาสาย)
  • I have something to explain/ say.
    อาย แฮฝ ซัมธิง ทู อิกซเปลน / เซ (ฉันมีอะไรบางอย่างที่จะอธิบาย/ พูด)
  • Please be quiet.
    พลีส บี คว๊ายเยิด (กรุณาเงียบๆ)
  • Please listen to your friend.
    พลีส ลิ๊สเซิน ทุ ยัว เฟรน (กรุณาฟังเพื่อนของเธอ)

Classroom Language : การดึงความสนใจ


         คำและวลีต่อไปนี้ เอาไว้สำหรับดึงความสนใจของนักเรียนให้อยู่ที่ครูหรือบทเรียนนะครับ 
  • Class!
    คลาส  (นักเรียน)
  • Look!
    ลุ๊ค  (ดู)
  • Listen, please!
    ลิสเซิน พลีส (กรุณาฟังหน่อย) 
  • Right!
    ไรท (เอาละ)
  • Listen carefully.
    ลิสเซิน แค๊ฟุลลิ (ฟังดีๆ นะ)
  • Miss, please!
    มิส พลีส (นี่ เธอ)
  • Attention please.
    อะเท็นเชิน พลีส (โปรดฟังนะ)
  • Now, what did I say?
    นาว ว็อท ดิด ดาย เซ (อ้อ ฉันพูดถึงไหนแล้ว)
  • Now, what have I just said?
    นาว ว็อท แฮฝ ฝาย จัส เสด (อ้อ ฉันเพิ่งพูดอะไรไปบ้าง)
  • Now, are you with me?
    นาว อา ยู วิธ มี๊ (เธอยังตั้งใจฟังอยู่ไหม)

Classroom Language : คำสั่งการจัดการชั้นเรียน


          คำสั่งในชั้นเรียนต่อไปนี้เป็นประโยชน์มากเลยครับสำหรับคุณครู เพราะว่าบางครั้งเราอยากจะสั่งนักเรียนให้ทำอย่างโน้นทำนี้ แต่ไม่รู้จะสั่งอย่างไร ตัวอย่างด้านล่างนี้คงเป็นประโยชน์นะครับ
  • Walk around and ask your friend about ………. .
    วอค คะเรา แดน ดาส ยัว เฟรน ดะเบ้า (เดินรอบๆ และถามเพื่อนเธอเกี่ยวกับ……..)
  • Please clean the blackboard.
    พลีส คลีน เดอะ แบล็คบอด (กรุณาทำความสะอาดกระดานดำ)
  •   Get back to your seat.
    เก็ท แบ็ค ทู ยัว ซีท (กลับไปที่นั่งของเธอ)
  •   Please take one for yourself and pass the rest to the others.
    พลีส เทค วัน ฟอ ยัวเซ็ลฟ แฟน พาส เดอะ เร็สท ทู ดิ อัธเธอส (กรุณาเก็บอันหนึ่งไว้กับตัวเอง และส่งที่เหลือไปให้เพื่อน)
  • Please work in pairs.
    พลีส เวิค คิน แพส (กรุณาทำงานเป็นคู่)
  • Please work in group of three/four.
    พลีส เวิค คิน กรูพ พอฟ ธรี / ฟอ (ทำงานเป็นกลุ่ม 4 / 5 คน)
  •   Please count from one to five.
    พลีส เคาท ฟรอม วัน ทู ไฟฟ (กรุณานับจากหนึ่งถึงห้า)
  •   Please make a group of six.
    พลีส เมค คะ กรุพ พอฟ ซิกซ (กรุณาสร้างกลุ่ม 6 คน)
  •   Work with your partner.
    เวิค วิธ ยัว พาทเนอ (ทำงานกับคู่ของเธอ)
  •   Sit in group of 5.
    ซิท ทิน กรุพ พอฟ ไฟฟ (นั่งเป็นกลุ่ม 5 คน)
  •   Form a group of 4.
    ฟอม มะ กรุพ พอฟ ฟอ (รวมกลุ่ม 4 คน)
  • Divide into teams and stand in a line.
    ดิวาย ดิน ทู ทีม แซน สแตน ดิน นะ ไลน (แบ่งเป็นทีม และยืนเป็นแถว)

Classroom Language : การเกริ่นเข้าสู่บทเรียน


         ประโยคต่อไปนี้เป็นประโยคในการกล่าวอะไรสักเล็กน้อยก่อนเข้าสู่บทเรียนครับ มาดูเลยครับว่าจะพูดว่าอย่างไรได้บ้าง
  • Let’s talk about ………….
    เล็ทส ทอค คะเบ้า ….. (เรามาสนทนาเกี่ยวกับ……กันเถอะ)
  • Have you finished your homework?
    แฮฝ ยู ฟินนิชท ยัว โฮม เวิค (เธอทำการบ้านเสร็จหรือยัง)
  • What about the homework?
    ว็อท ทะเบ้า เดอะ โฮมเวิค (การบ้างเป็นไงบ้าง)
  • Let me see your homework.
    เล็ท มี ซี ยัว โฮมเวิค (ขอดูการบ้านหน่อยซิ)
  • Where did you stop yesterday?
    แว ดิด ยู สต็อพ เย็สเตอเด {เมื่อว่าเธอมาหยุดตรงไหน (เรียนมาถึงตรงไหน)}
  • Please tell me what we did yesterday.
    พลีส เท็ล มี ว็อท วี ดิด เย็สเตอเด (กรุณาบอกฉันหน่อยว่าเราทำอะไรบ้างเมื่อวาน)
  • Let’s start our lesson. Have you ever seen ….. ?
    เล็ท สตารท เอา เล็สเซิน แฮฝ ยู เอ๊เวอะ ซีน ….(เรามาเริ่มบทเรียนกันเถอะ เธอเคยเห็น…….ไหม)
  • Have you ever heard of ….. ?
    แฮฝ ยู เอเวอะ เฮิด ดอฟ…………( เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับ……..ไหม)
บทความที่เก่ากว่า → หน้าแรก